วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ทฤษฎีสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา (Left & Right Brain Bias)

ทฤษฎีสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา (Left & Right Brain Bias)

ทฤษฎีสมองซีกซ้าย-ขวาของ ดร.โรเจอร์ ดับบลิว สเปอร์รี่ (Dr.Roger W. Sperry) แห่งวิทยาลัยฟิสิกส์อุตสาหกรรม มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งท่านได้ค้นพบในปี ค.ศ.1981 ว่าสมองคนเรานอกจากจะแบ่งออกตามขนาด เป็นสมองเล็ก สมองใหญ่ หรือแบ่งเป็นสมองส่วนหน้า ส่วนหลังแล้วยังสามารถแบ่งตามสมรรถภาพสมอง เป็นสมองซีกซ้าย-ซีกขวาได้อีกด้วย ซึ่งจากการค้นพบครั้งนี้ทำให้ท่านได้รับรางวัลโนเบล สาขาแพทยศาสตร์

สมองซีกซ้าย และสมองซีกขวาบอกอะไรในตัวเด็ก

สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา

จิตสำนึก

การสร้างข้อมูลในเชิงตรรกวิทยา

เป็นแหล่งพัฒนาพลังจิต

ทำหน้าที่ตัดสินใจด้วยความสามารถ

ทำหน้าที่ตัดสินใจด้วยความสามารถอย่างมีจิตสำนึก

จิตใต้สำนึก

ควบคุมระบบประสาท

เก็บข้อมูลความจำ

เก็บข้อมูลเหตุการณ์ ประสบการณ์

มีความคิดและอารมณ์เชิงสร้างสรรค์
 
สมองซีกซ้าย สมองซีกซ้ายจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์
- การคิดในทางเดียว (คิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง)
- การคิดวิเคราะห์
- การใช้ตรรกศาสตร์และการใช้เหตุผลเชิงคณิตศาสตร์
- การใช้ภาษาที่มีทั้งการอ่าน และการเขียน
สมองซีกซ้ายจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวกับการใช้เหตุผล การคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้สมองซีกซ้ายยังเป็นตัวควบคุม การกระทำ การฟัง การเห็น และการสัมผัสต่างๆ ของร่างกายทางซีกขวาอีกด้วย

สมองซีกขวา สมองซีกขวาจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์
- การคิดสร้างสรรค์
- การคิดแบบเส้นขนาน (คิดหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะไม่เกี่ยวข้องกัน)
- การคิดสังเคราะห์ (สร้างสิ่งใหม่)
- การเห็นเชิงมิติ (กว้าง ยาว ลึก)
- การเคลื่อนไหวของร่างกาย ความรัก ความเมตตารวมถึงสัญชาตญาณ และลางสังหรณ์ต่างๆ

    สมองซีกขวาจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ จริยธรรม อารมณ์ ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานในสายของวิชาการทางศิลปศาสตร์ (Arts) เป็นส่วนใหญ่ และยังเป็นตัวควบคุมการทำงานของร่างกายทางซีกซ้ายด้วย
    ผลจากทฤษฎีสมองซีกซ้าย-สมองซีกขวา คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่าถ้าเราใช้สมองด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าอีกด้านหนึ่ง อาจจะทำให้เกิดผลเสียได้โดยเฉพาะในด้านของการอยู่ร่วมกันในสังคมปัจจุบัน อย่างมีความสุข ดังนั้นควรที่จะให้เด็กๆ ได้ใช้สมองทั้งสองซีกอย่างสมดุลกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น